13 ปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งชนิดต่างๆ
1. มีประวัติบุคคลในครอบครัวเคยป่วยเป็นมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งชนิดไหนก็ตาม แปลว่ามะเร็งไม่ใช่โรคที่สืบทางพันธุกรรมหรือมรดกทายาทถึงกัน แต่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่ามะเร็งบางชนิดสามารถสืบถึงการได้โดยตามสายเลือด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
2. ผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับสูง
3. ผู้ที่สูบบุหรี่ติดต่อกันเป็นเวลานาน มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดสูง หรือแม้กระทั่งผู้สูดดมควันบุหรี่จากผู้อื่นเป็นประจำมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคนสูบบุหรี่อีกด้วย
ผู้ที่สูบบุหรี่และดื่มสุราเป็นประจำ มีอัตราการเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งช่องปากและลำคอสูงกว่าคนทั่วไป
4. ผู้ที่ต้องทำงานที่หายใจอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อันตราย ใกล้โรงงานอาจทำให้เกิดมะเร็งบางชนิดได้ เช่น ผู้ทำงานในเหมืองที่ต้องสูดฝุ่นหินตลอดเวลา โรงงานถลุงเหล็ก โรงงานสารเคมี มีอัตราเป็นมะเร็งปอดสูงกว่าคนปกติหลายเท่า หรือเจ้าหน้าที่ใช้แสงเอ็กซ์เรย์ ที่ต้องสารปนเปื้อนกัมมันตรังสีบ่อยๆ อาจเป็นต้นเหตุของมะเร็งไขกระดูก หรือมะเร็งเม็ดเลือดได้เป็นต้น
5. ผู้หญิงที่เริ่มมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือผู้หญิงที่มีบุตรมาก หรือผู้หญิงที่มีบุตรยาก มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก มะเร็งมดลูก และมะเร็งรังไข่ มากกว่าผู้หญิงทั่วไป
6. ผู้ที่เป็นพาหะของเชื้อไวรัส ตับอักเสบบี เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับสูง
7. ผู้ที่บริโภคอาหารปนเปื้อนด้วยสารพิษ อะฟลาทอกซิน มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ สารพิษชนิดนี้มีความเป็นพิษสูง คงทนและทำลายได้ยาก แม้ผ่านความร้อนสูงก็ไม่สามารถทำลายได้ เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง พบได้จากถั่วลิสงป่นที่เก็บรักษาได้ไม่ดี และถั่วลิสงที่มีความชื้น
8. ผู้ที่บริโภคอาหารสุกๆดิบๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะผักสด มีโอกาสได้รับใช้ของพยาธิไม้ในตับเข้าสู่ร่างกาย จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
9. ผู้ที่ได้รับสารก่อมะเร็งที่เกิดจากการกินอาหารปิ้งย่างเป็นประจำ เสี่ยงต่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหารมากกว่าปกติ
10. ผู้ที่บริโภคอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ รวมถึงผู้ที่เป็นโรคอ้วน โดยเฉพาะในผู้หญิง จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเยื่อบุมดลูก ส่วนผู้ชายจะเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก
11. ผู้ที่ตากแดดจัดๆเป็นประจำ ได้รับแสงอัลตราไวโอเลตเป็นปริมาณมาก ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง ส่วนใหญ่พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
12. ผู้ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมแต่กำเนิด
13. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอันเกิดจากติดเชื้อไวรัส HIV รวมถึงผู้ที่มีความผิดปกติจากภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอลงด้วยปัจจัยต่างๆ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งของหลอดเลือด เป็นต้น